วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556

CIA กลยุทธ์การโค่นล้มรัฐบาล.


[เรื่องราวของ "CIA" กับการใช้กลยุทธ์ในการโค่นล้มรัฐบาลอื่น]

“สิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยอ่อนแอลงได้มีอย่างเดียวคือคนไทยขาดความสามัคคี ส่วนนโยบายต่างประเทศประเทศไทยมีข้อดีคือตั้งอยู่ในยุทธศาสตร์ที่สำคัญ แต่เป็นประเทศเล็กๆ วิธีทีประเทศไทยจะได้ประโยชน์ สูงสุดคือต้องเป็นกลาง!!” ประธาน เหมา เจ๋อ ตุง พูดกับ นาย อารี ภิรมย์ หัวหน้าคณะทูตใต้ดินไทย พ.ศ.2493 จากหนังสือ “ประวัติศาสตร์การทูตจีน-ไทย ยุคใต้ดิน”

สิ่งที่ "เหมา เจ๋อ ตุง" กล่าวไว้กว่า 60 ปีแล้ว ยังเป็นจริงอยู่จนบัดนี้ สำหรับประเทศที่แตกความสามัคคีจนชาติต้องล่มจม ซึ่งในอดีตมีมากมายนับไม่ถ้วนจนไร้ประโยชน์ที่จะบอกว่า ข้อเสียการแตกสามัคคีคืออะไร ในยุทธศาสตร์การต่อต้านคอมมิวนิสต์ของ "CIA" สมัยก่อนคือ สนับสนุนระบอบเผด็จการทุกรูปแบบ ในการทำลายล้างระบอบประชาธิปไตย ฟังดูแล้วคนรุ่นใหม่ที่เกิดไม่ทันคงอาจจะประหลาดใจว่า อเมริกาที่โวให้ชาติต่างๆ ฟังซึงมีอยู่ 3 เรื่องหลักๆ ที่ได้ยินกันจนชินหู คือ “ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ตลาดเสรีทุนนิยม” เขาจะเคยกระทำอะไรตรงกันข้ามที่ว่านี้ด้วย

ในช่วงปี 1950 สมัย ปธน ไอเซนส์ฮาว มีนักประวัติศาสตร์บางคนกล้าพูดว่า “เป็นยุคสมัยที่ดีที่สุด เนื่องจากท่าน ปธน ไม่ได้ทำอะไรเลย” ผิดถนัด!!! ซึ่งในยุคของ ไอน์เซนฮาว เป็นยุคที่ "CIA" ขยายการปฏิบัติการออกไปทั่วโลกจนปัจจุบันนี้ เนื่องจากความกลัวที่คอมมิวนิสต์ยึดประเทศจีน อีกทั้งคิวบาก็เปลี่ยนเป็นคอมมิวนิสต์และกำลังส่งออกการปฏิวัติไปทั่ว อเมริกาใต้

หากอเมริกาใต้กลายเป็นคอมมิวนิสต์ อเมริกาจะเสียประโยชน์เพราะ บ.เอกชน ของอเมริกาไปลงทุนด้านการเกษตร และเหมืองแร่ไว้มาก ซึ่งนโยบายของคอมมิวนิสต์คือเข้าควบคุมทุกอย่างที่เป็นเอกชนแล้วบริหารเอง เนื่องจากลักษณะความเหลื่อมล้ำอย่างมากของสังคมอเมริกาใต้ที่ คนประมาณ 5% ของประเทศถือครองแผ่นดิน 90% ของประเทศ และกิจการใดๆส่วนใหญ่ก็เป็นของต่างชาติ. พรรคการเมืองที่มีนโยบายสังคมนิยม (คอมมิวนิสต์) จึงได้ชัยชนะอย่างถล่มทลาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของอเมริกา ทำให้รัฐบาลพวกนั้นต้องถูกกำจัดทิ้ง!!

[โดยกลยุทธ์ที่ "CIA" ใช้ ในช่วงปี 1950-1980] สรุปได้ ดังนี้..

- 1. [อำนาจการเมืองระหว่างประเทศ] : อย่างเช่น คว่ำบาตร ตัดสัมพันธ์การทูต ยุติความช่วยเหลือ ยุแยงตะแคงรั่ว จัดตั้งกองทัพหรือเปิดสงครามตัวแทน โดยให้เงินเพื่อชักจูงพวกแกนนำ แล้วให้อุดมการณ์เพื่อชักจูงพวกระดับล่าง ความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิดจากการแทรกแซงนี้ มีสิทธิ์เป็นข้ออ้างในการล้มรัฐบาลได้

- ตัวอย่างเช่น...
1956 "CIA" อาศัย "radio free Europe" ปลุกปั่นให้ ชาวฮังการี ลุกขึ้นมาต่อต้านการยึดครองของ โซเวียต “แล้วอเมริกันจะส่งอาวุธมาช่วย” แต่โซเวียต ไม่อ่อนข้อให้การลุกฮือของชาวฮังการี จึงส่งกองทัพมาปราบอย่างโหดเหี้ยม ชาวฮังการีตายไป 30,000 คน และความช่วยเหลือของอเมริกัน ก็เป็นแค่ลมปาก

1975 โค่นรัฐบาลอังโกล่า แม้ว่าประเทศนี้จะตั้งอยู่ในแอฟริกาและไม่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์เลย แต่ "ปธน.Jonas Savimbi" ดันไปสนับสนุนให้โซเวียตติดอาวุธนิวเคลียร์ให้คิวบา จากท่าทีนี้ ทำให้สหรัฐเคืองจนสั่งให้ "CIA" ส่งอาวุธให้ กลุ่มกบฏ "UNITAS" เพื่อโค่นรัฐบาล สงครามที่สุดไร้สาระนี้ยืดเยื้อนับ 10 ปี คนตายไป 300,000 คน

ปี 1979-1989 "CIA" สนับสนุนอาวุธให้กลุ่มต่อต้านรัฐบาลอัฟกันสถาน เพื่อสู้กับรัฐบาลที่นิยมคอมมิวนิสต์ของโซเวียต "CIA" ชูธงสงครามศักสิทธิ์ของศาสนาอิสลาม(จีฮัด) เพื่อดึงมุสลิมจากทั่วโลกมารบ แต่ท้ายสุด CIA ต้องปวดหัวกับพวกมุสลิมหัวรุนแรงที่เป็นผลิตผลจากสงครามครั้งนี้ที่เอา กลยุทธ์ที่ "CIA" สอนมาใช้สู้กับสหรัฐต่อ โดยทำการชูธงสงครามศักสิทธิ์ต่อต้านยิวและอเมริกา (คริสเตียน)

- 2. [อาศัยอำนาจเงิน] : โดยเฉพาะการติดสินบน ซึ่งใช้ได้ผล และประสบความสำเร็จอย่างสูง เป้าหมายของ CIA คือ ทหารในกองทัพประเทศนั้นๆ เป็นหลัก เพราะกองทัพมักจะถนัดในการใช้ความหวาดกลัวปกครองประชาชนอยู่แล้ว แถม CIA ยังไม่ต้องเสียเวลาติดอาวุธให้คนพวกนี้ด้วย สรุปคือ หลอกให้คนของประเทศนั้นฆ่ากันเองด้วยอาวุธของเขาเอง.. เพื่อผลประโยชน์ของ อเมริกา และเศษเงินที่อเมริกาจะเจียดให้กลุ่มผู้ทำการปฏิวัติเล็กน้อย

- ตัวอย่างเช่น...
ในปี 1953 "Operation MK-ULTRA" โดยโค่นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของอิหร่าน "Mohammed Mossadegh" เนื่องจากการที่มีพยายามจะยึดบ่อน้ำมันของ บ.ในเครือของร็อคกี้เฟลเลอร์ กลับเป็นของรัฐ พวกทหารที่ก่อการรัฐประหาร เลื่อนตัวเองเป็น พระเจ้า ชาห์ แห่งอิหร่าน ซึ่งกุมอำนาจต่อมาได้อีกถึง 20 ปี

ปี 1954 โค่นล้มรัฐบาลกัวเตมาลาที่มาจากการเลือกตั้ง เนื่องจาก "Jacobo Árbenz Guzmán " พยายามปฏิรูปที่ดินของประเทศซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในมือของบริษัท "United fruit" รัฐบาลเผด็จการทหารใหม่นี้ครองอำนาจต่อเนื่องกันถึง 40 ปี (ซึ่งประเทศในแถบละตินอเมริกาแทบทุกประเทศถูกก้าวก่ายแทรกแซงจากอเมริกาถ้า ให้ในพูดให้หมดทุกประเทศคงต้องเขียนอีกหลาย entry แต่เหตุผลหลักๆ คือเรื่องเดิมๆ คือ นโยบายขัดผลประโยชน์สหรัฐ ข่าวการปฏิวัติรัฐประหารมีแทบทุกวันในช่างปี 1960 จนบัดนี้ประเทศแถบนี้ยังเรื้อรังไปด้วยการคอรัปชั่น อาชญากรรม และช่องว่างระหว่างชนชั้น จนยากจะพัฒนาให้ไปไกลกว่านี้ได้)

ปี 1965 โค่นรัฐบาลอินโดนีเซีย ซึ่งมี ซูการ์โน เป็นผู้นำเนื่องจากประกาศให้อินโดนีเซียเป็นประเทศที่เป็นกลาง ท่ามกลางกระแสสงครามเย็นที่กำลังระอุ.. หลังพยายาม ติดสินบน ลอบสังหาร และทำลายชื่อเสียงด้วยประเด็นชู้สาว ไม่สำเร็จ "CIA" จึงหนุน ซูฮาร์โต ให้โค่นรัฐบาล ซูการ์โน และครอบครัวของ ซูฮาร์โต ก็ได้ครองอำนาจต่อเนื่องมาได้อีกถึง 30 ปี

- 3. [รุกรานโดยตรง] : โดยส่งทหารไปล้มรัฐบาล แล้วจัดตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดขึ้นใหม่...

-ตัวอย่างเช่น..
ในปี 1961, "Operation Mongoose".. CIA ได้ส่งทหารเชื้อสายคิวบา 1,500 นาย ยกพลขึ้นบกที่ "Bay of pig" ของคิวบา หวังจะให้การบุกครั้งนี้กระตุ้นประชาชนคิวบาให้ลุกฮือ และได้สัญญากับกลุ่มกบฏว่า จะสนับสนุนการปฏิบัติการทางอากาศ แต่คำสัญญานั้นไม่เคยเกิดขึ้นจริง โชคร้ายของ "CIA" ที่สายลับ "KGB" โซเวียต นั้นจารกรรมข้อมูลของปฏิบัติการนี้ได้ สรุป คือ ทุกอย่างจะล้มเหลว "Allen Dulles." ผู้อำนวยการ "CIA" จึงถูกไล่ออกจากตำแหน่ง

1989 "Operation Just cause" สหรัฐส่งกำลังบุก ปานามา เพื่อโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการทหารคือ "General Manuel Noriega" ซึ่ง "CIA" หนุนหลังมาตั้งแต่ปี 1966 ด้วย 2 ปัจจัยคือ 1.ส่งยาเสพติดเข้าสหรัฐ และ 2.พยายามจะยึดคลองปานามากลับเป็นสมบัติของรัฐบาล (คลองปานามาเป็นสมบัติของสหรัฐ)

- วิธีหลักๆ ที่ "CIA" ใช้ ไล่จากราคาถูก ไป แพง ก็เป็นตามนี้..

... "หากชาติไหน ระบอบการปกครองอ่อนแอ มีความเหลื่อมล้ำสูง ระเบียบวินัยคนในชาติต่ำ ไม่มีความสามัคคี... การรัฐประหารด้วยกองทัพจะถูกเลือกใช้"...
... "หากชาติไหน ปกครองด้วยระบอบที่เฉียบขาด แต่ประชาชนไม่สามัคคี ต้องติดอาวุธให้คนของมันฆ่ากันเอง"...
..."หากชาติไหน ปกครองด้วยระบอบที่แข้มแข็ง ประชาชนสามัคคีกันสูง จำเป็นต้องส่งกองทัพไปเพื่อบีบให้จำนน"...

- ตัวอย่างเพิ่มเติมการโค่นรัฐบาลจากข้างถนน อาทิเช่น..

"orange revolution" ในยูเครน ปี 2004 วิตเตอร์ ยุนุโควิช(ซึ่งเป็นโปรรัสเซีย)ผู้ชนะการเลือกตั้งในสัดส่วน 66% ถูกกล่าวหาว่าโกงการเลือกตั้ง ผู้สนับสนุน วิตเตอร์ ยุเชงโก้(โปรอเมริกา) จึงออกมาบนท้องถนนแล้วตั้งตัวเป็นชุดสีส้ม โบกธงสีส้ม เพื่อขับไล่ วิตเตอร์ ยุนุโควิช กันทั่วประเทศ

เนื่องจากไม่ต้องการการนองเลือด "วิกเตอร์ ยุนุโควิช" จึงต้องออกมาประกาศให้เลือกตั้งใหม่ และเขาก็แพ้การเลือกตั้ง

"rose revolution" ในจอร์เจีย 2003 ปธน.เซวาสนาสเซ่ (โปรรัสเซีย) ชนะการเลือกตั้งตั้งรัฐบาลโดยได้ที่นั่งในสภา 85 ที่นั่ง จาก 135 ที่นั่ง คู่แข่งการเลือกตั้งคือ ซาคาสวิลิ(โปรอเมริกา) กล่าวหาว่าถูกโกงการเลือกตั้ง พรรคพวกของ ซาคาสวิลิ นำคนมากมายออกมาบนท้องถนน แต่ ปธน เชวาสนาสเซ่ ไม่สนใจจึงเดินหน้าเปิดสภาสมัยสามัญต่อตามกำหนด

คราวนี้ ซาคาสวิลิ เดินเข้าไปหา ปธน เชวาสนาสเซ่ ขณะกำลังกล่าวแถลงนโยบายโดยแหวกฝูงบอดี้การ์ดเข้าไปแล้วยื่นดอกไม้ให้ คราวหน้าฝูงชนนับแสนได้เคลื่อนตัวมาล้อมรัฐสภา ปธน เชวาสนาสเซ่ ได้สั่งให้ตำรวจ ทหาร สลายการชุมนุม แต่ ตำรวจ ทหารปฏิเสธ ปธน.เชวาสนาสเซ่ จึงต้องลงจากตำแหน่ง..

"Romania revolution" ในโรมาเนีย ปี 1989 ปธน.เชาเชสคู ผู้นำคอมมิวนิสต์ ต้องการให้โลกเห็นความแข็งแกร่งของคอมมิวนิสต์โรมาเนีย หลังจากที่ประเทศคอมมิวนิสต์ต่างๆ ในยุโรปทยอยล่มสลาย ปธน.เชาเชสคู สั่งให้เริ่มชุมนุมโดยประชาชนเพื่อสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์ ทันทีที่ ปธน.เชาเชสคู ออกมาที่ระเบียงเพื่อกล่าวสุนทรพจน์ เริ่มมีเสียงโห่ร้องขึ้น จากนั้นเสียงโห่ประสานกันแรงขึ้นแล้วฝูงชนเริ่ม เคลื่อนไหวด้วยความรุนแรง

ปธน.เชาเชสคู สั่งให้สลายการชุมนุม แต่ตำรวจ ทหาร ปฏิเสธแล้วหันไปเป็นฝ่ายเดียวกับฝูงชน ท้ายสุดเชาเชสคูต้องหนีจากทำเนียบด้วยเฮลิคอปเตอร์อย่างทุลักทุเล หลังจากนั้นไม่นาน ทหารที่ช่วยเหลือประธานาธิบดี เชาเชสคู กลับนำเขาไปประหารคอมมิวนิสต์ในโรมาเนียจึงสิ้นสุดตั้งแต่นั้น...เฮ้อ.!!

- ข้อมูลจาก : http://orthodox.exteen.com/20100318/cia

ขอขอบคุณทางเพจ สงคราม ประวัติสาสตร์ไว้โอกาสนี้ด้วยครับ :D





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น