วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

การมีชีวิตอยู่โดยใช้สัญชาตญาณ

สัญชาตญาณ


ในเมื่อมนุษย์เราทุกคนล้วนแล้วแต่มีสัญชาตญาณที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ซิกมันด์ ฟรอยด์ 
นักจิตวิทยาชาวออสเตรีย เป็นผู้ที่สร้างทฤษฎีจิตวิเคราะห์ (Psychoanalytic Theory)ซึ่งเป็นทฤษฎีทางด้านการพัฒนา Psychosexual โดยเชื่อว่าเพศหรือกามารมณ์ เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาของมนุษย์
ฟรอยด์ไม่เคยอธิบายความหมายหรือนิยามคำว่าสัญชาตญาณไว้อย่างแจ่มชัด รู้เพียงว่าเราสามารถเข้าใจสัญชาตญาณของคนได้ดีที่สุดโดยการวิเคราะห์ธรรมชาติของเซ็กส์
โดยฟรอยด์เชื่อว่ามนุษย์มีสัญชาตญาณติดตัวมาแต่กำเนิด พฤติกรรมของบุคคลเป็นผลมาจากแรงจูงใจหรือแรงขับพื้นฐานที่กระตุ้นให้บุคคลมี พฤติกรรม ซึ่งนั่นคือ สัญชาตญาณทางเพศ (sexual instinct)  
ซึ่งแบ่งออกเป็น ลักษณะคือ
1.       สัญชาตญาณเพื่อความตาย (thanatos = death instinct)
เป็นสัญชาตญาณแห่งการทำลายล้าง ฟรอยด์เชื่อว่า ในระดับจิตไร้สำนึกนั้น คนได้รับความสุขและความพึงพอใจบางอย่างจากการใช้ความรุนแรงและจากการทำร้ายหรือเข่นฆ่าผู้อื่น หรือเกิดจากความอยากตาย ซึ่งทุกคนรู้ว่าเป็นจุดหมายสุดท้ายของชีวิต ทำให้บุคคลฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตนเอง  หรือก้าวร้าวผู้อื่น (เนื่องจากมีสัญชาตญาณแห่งการมีชีวิตคอยขัดขวาง จึงไปทดแทนที่คนอื่น)
2.      สัญชาตญาณเพื่อการดำรงชีวิต (eros = life instinct)
เป็นสัญชาตญาณการตอบสนองความต้องการทางร่างกาย เช่น ความต้องการอาหาร หรือ ความต้องการทางเพศ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งกับการดำรงชีวิต และสืบต่อเผ่าพันธุ์ของมนุษย์
ฟรอยด์ได้อธิบายว่าสัญชาตญาณทั้ง ลักษณะมีความต้องการทางเพศเป็น แรงผลักดัน ซึ่งบุคคลไม่กล้าแสดงออกมาโดยตรง จึงเก็บกดไว้ในระดับจิตไร้สำนึก และได้ตั้งสมมติฐานว่า มนุษย์มีพลังงานอยู่ในตัวตั้งแต่เกิดเรียกว่า “Libido” ซึ่งทำให้บุคคลอยากมีชีวิต อยากสร้างสรรค์และอยากมีความรัก มีแรงขับทางด้านเพศหรือกามารมณ์ เป็นเป้าหมายคือความสุขและความพอใจ โดยมีอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ไวต่อความรู้สึก ซึ่งความพึงพอใจในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายจะเป็นไปตามวัย เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยผู้ใหญ่
สัญชาตญาณทางเพศ เป็นสิ่งที่มนุษย์มีมาตั้งแต่แรกเกิด และพัฒนาขึ้นพร้อมๆกับกระบวนการเรียนรู้ทางสังคม
สัญชาตญาณทางเพศ คือ การกระทำเพื่อหาความสุข ความพึงพอใจจากร่างกายของเราเอง ไม่ได้หมายถึงการร่วมรักระหว่างชายหญิงเท่านั้น รักร่วมเพศ รักกับสัตว์ รักกับสิ่งของ ก็ใช่
การหาความพึงพอใจทางเพศจากปาก ทวารหนัก อวัยวะสืบพันธ์ ก็ใช่
รวมถึงการมีจุดมุ่งหมายทางเพศ ที่มีลักษณะต่างๆกันออกไป เช่น พวกชอบโชว์ ชอบแอบดู ซาดิสม์ มาโซซิสม์ ก็ใช่อีกเช่นกัน
สังเกตได้ว่า พฤติกรรมทางเพศบางอย่างที่กล่าวมาอาจถูกมองจากบางสังคมว่าเป็นสิ่งผิดปรกติ  แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว พฤติกรรมทางเพศเหล่านี้ถือว่าเป็นลักษณะธรรมชาติพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น